ถูกนำออกมา "แฉ" ในขณะที่เป็น ,,รัฐมนตรี,,
"ความผิดพลาด" ครั้งนั้น
จะส่งผลให้ "ผู้ทำผิด"
ได้รับ บทลงโทษทางกฎหมาย .. และทางปฏิบัติอย่างไร ??
........
" ผู้สื่อข่าวรายงานการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีร่วมรัฐบาลอีก 7 คน
ขณะนี้ (26 มิ.ย.) เป็นการอภิปรายในส่วนของกระทรวงคมนาคม หลังจากเสร็จสิ้น
การอภิปรายกระทรวงพาณิชย์ โดย พ.อ.วินัย สมพงษ์ ส.ส.ประชาธิปัตย์
เป็นคนแรกที่ลุกขึ้นอภิปรายนายสันติ พร้อมพัฒน์รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
ระบุหลักฐานว่าขณะที่นายสันติ เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง
ถูกทางมหาวิทยาลัยจับได้ว่าให้บุคคลอื่นเข้าสอบแทน
โดยปลอมแปลงใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ ใช้เป็นหลักฐานในการเข้าสอบ
และถูกลบชื่อจากความเป็นนักศึกษา !!!!
อย่าง ไรก็ตาม บรรดา ส.ส.พลังประชาชน ต่างผลัดกันลุกขึ้นประท้วงการอภิปรายของ
พ.อ.วินัย เป็นระยะๆว่านำเรื่องในอดีตที่ไม่เกี่ยวกับการบริหารราชการ
ในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงคมนาคม มาอภิปราย
แต่ประธานในการประชุมวินิจฉัยว่า มีความเกี่ยวข้องกับญัตติที่ฝ่ายค้านยื่น อภิปรายไม่ไว้วางใจ
จึงอนุญาตให้อภิปรายต่อ
เมื่อเวลา 12.30 น. ที่ผ่านมา นายวิวัฒน์ชัย กุลมาตย์ อดีตรองอธิการบดี
มหาวิทยาลัยรามคำแหง ปัจจุบันเป็นอาจารย์ประจำคณะศึกษาศาสตร์
มหาวิทยาลัยรามคำแหง มอบอำนาจให้นายโลมิรันดร์ บุตรจันทร์ ทนายความ
เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.
เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีกับ นายสันติ พร้อมพัฒน์
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ข้อหาปลอมแปลงเอกสารทางราชการและใช้เอกสารปลอม
และนายรังสรรค์ แสงสุข สมัยเป็นอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง
ข้อหาละเว้นหรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157
ในฐานะอาจารย์ประจำคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. 2542 ในการสอบไล่ภาคฤดูร้อน ปีการศึกษา 2541 หัวหน้าตึก PRB ตรวจ
พบว่า นายสันติ รหัสประจำตัวนักศึกษา 4106562624 ได้ให้บุคคลอื่นเข้าสอบแทน
โดยปลอมบัตรประจำตัวนักศึกษาและใบอนุญาตขับรถยนต์ส่วนบุคคลตลอดชีพ
ของกรมการขนส่งทางบก และนำมาใช้เป็นหลักฐานเข้าห้องสอบ
ที่ประชุมของคณะกรรมการที่ปรึกษาของสภามหาวิทยาลัย (ทปอ.)
ในการประชุมครั้งที่ 23/2542 วันที่ 30 มิ.ย. 2542 ได้พิจารณาแล้วเห็นว่า
การกระทำของนายสันติ ฝ่าฝืนคำสั่งมหาวิทยาลัยรามคำแหง ที่ 684/2537
เรื่องข้อปฏิบัติในการสอบไล่ ข้อ 1.20 อันเป็นการกระทำผิดวินัยร้ายแรง ตามข้อ 6
แห่งข้อบังคับมหาวิทยาลัยรามคำแหง ว่าด้วยวินัยนักศึกษา พ.ศ.2522
จึงมีมติให้ลบชื่อ นายสันติ ออกจากทะเบียนนักศึกษาตังแต่สอบไล่ภาคฤดูร้อน
ปีการศึกษา 2541 สั่ง ณ วันที่ 4 ส.ค. 2542..
ต่อ มา นายสันติ ซึ่งถูกลบชื่อออกจากทะเบียนนักศึกษาไปแล้ว
ได้บังอาจสมัครเป็นนักศึกษาใหม่มหาวิทยาลัยรามคำแหงอีก
ทั้งที่รู้อยู่ว่าตนถูกลบชื่อไปแล้ว และไม่มีสิทธิสมัคร
ซึ่งในเวลาดังกล่าว นายรังสรรค์ แสงสุข เป็นอธิการบดี เป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรง
ของพนักงานมหาวิทยาลัย ขณะเดียวกัน ม.รามคำแหง เป็นนิติบุคคลตามกฎหมายมหาชน
มีอธิการบดีปฏิบัติหน้าที่ตาม พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยรามคำแหง พ.ศ.2541
ได้มีการช่วยเหลือหรือสนับสนุน หรือละเลยการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งกฎหมายให้มีอำนาจปฏิบัติ
โดยได้ให้นายสันติ ได้รับการรับสมัครเป็นนักศึกษาใหม่ ระดับปริญญาตรี
และเรียนต่อระดับปริญญาโทจนจบ จึงเป็นการกระทำผิดตามระเบียบมหาวิทยาลัย
เพราะเมื่อนายสันติถูกลบชื่อ ก็มีสิทธิสมัครเป็นนักศึกษา
หรือจนกว่าจะขาดอายุความ 15 ปี
นอกจากนั้น จากการที่มหาวิทยาลัย หรืออธิการบดี ไม่ดำเนินการตรวจสอบคุณสมบัติ
ของนายสันติ ขณะเดียวกัน ก็มีหน้าที่ต้องดำเนินคดีกับนายสันติ แต่กลับไม่ดำเนินการใดๆ
อีกทั้งยังสนับสนุนให้สมัครเรียนปริญญาตรีภาคพิเศษ จนจบปริญญาโท
ทั้งที่มีกฎหมายให้ตรวจสอบและปฏิบัติ ถือว่าเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
ตามกฎหมายอาญามาตรา 157 ขณะที่นายสันติ ถือว่าขาดจริยธรรม
สำหรับข้าราชการการเมือง!!!! "
Credit : http://www.thairath.co.th/online.php?section=newsthairathonline&content=94899
????????????????
ในฐานะที่พวกเราเป็น "นักศึกษา" คนหนึ่งในสังคม ..
ทุกคนมีความคิดเห็นอย่างไรกับข่าวนี้ ..
การ "โกง" ในอดีตของรัฐมนตรีคนนี้ จะส่งผลอะไรต่อปัจจุบัน ?
ความผิดในอดีต .. จะเป็นเครื่องชี้วัดหรือตัดสินเรื่องราวในปัจจุบันได้หรือไม่ ?
และ .. เรื่องๆนี้ จะเป็นเรื่องนึงที่ตัดสินอนาคตทางการเมืองของเขา..
และของประเทศไทยได้ยังไงต่อไป ??
ถ้ามองออกไปกว้างๆ .. ประเทศไทย ของ "เรา" จะเป็นยังไงต่อไป ..
ทุกคนคิดว่ายังไงคะ ?