Photobucket

วันศุกร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2551

พปช.สรุป"สมชาย"เป็นนายกฯ โหรคมช.ระบุอยู่ไม่เกิน3เดือน



พปช.ได้ข้อสรุปเสนอชื่อ"สมชาย" เป็นนายกฯ ด้านพรรคร่วมตอบรับแล้ว ยื่นเงื่อนไขให้ปรับ ครม.ใหญ่ "ชาติไทย" ขอคุมคมนาคม "สุวิทย์" จ่อกลับมาเป็น รมต.อีกรอบ "เนวิน" ดิ้นสุดตัว ดัน "เลี้ยบ" หวั่นแพ้โดนริบโควตา รมต. พันธมิตรลั่นไม่เอา 3 ส. "ยงยุทธ" เล็งเบนจับขั้ว ปชป.ตั้งรัฐบาลใหม่หากมียุบสภา โหร คมช.ฟันธง 3 ส.บารมีไม่ถึง แม้ได้เป็นนายกฯ ก็อยู่ไม่เกิน 3 เดือน

แกนนำพรรคพลังประชาชน3 ส. ได้แก่ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ในฐานะรองหัวหน้าพรรค นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รองหัวหน้าพรรค และ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการพรรค ใช้เวลาในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ตระเวนเดินสายพบแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อเชิญเข้าร่วมรัฐบาลและหารือถึงการสรรหาบุคคลที่เหมาะสมมาเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ แทนนายสมัคร สุนทรเวช ที่พ้นจากตำแหน่งไป

นายสมชายวงศ์สวัสดิ์ 1 ใน 3 ส.ที่เป็นแคนดิเดต ซึ่งพรรคพลังประชาชนเตรียมเสนอชื่อให้เป็นนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการตระเวนเดินสายพบแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลเมื่อวันที่ 14 กันยายน ว่า เป็นการคุยกันธรรมดา ไม่ได้เสนอชื่อนายกรัฐมนตรีแต่อย่างใด คาดว่าจะได้รายชื่ออย่างเป็นทางการในวันจันทร์ที่ 15 กันยายน และจะมีการเสนอให้พรรคร่วมรัฐบาลรับทราบอย่างเป็นทางการอีกครั้งในวันที่ 16 กันยายนนี้
เมื่อถามถึงใบสั่งจากลอนดอนของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ นายสมชายกล่าวว่า ไม่มีใครสั่งได้ เพราะเป็นเรื่องของ ส.ส.


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (14 ก.ย.) ภายหลังจากแถลงยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่กองบัญชาการกองทัพไทย นายสมชาย นายสมพงษ์ และ นพ.สุรพงษ์ ได้ไปพบแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อเชิญเข้าร่วมรัฐบาล เริ่มจากไปที่ที่ทำการพรรคเพื่อแผ่นดิน หารือกับนายสุวิทย์ คุณกิตติ หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน จากนั้นไปพบนายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช ที่บ้านพักเมืองทองธานี ต่อด้วยการเข้าพบ พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร ที่ที่ทำการพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา ตามด้วยพรรคมัชฌิมาธิปไตย และปิดท้ายในเวลา 21.00 น. เข้าหารือร่วมกับนายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย ที่บ้านพักย่านจรัญสนิทวงศ์ ซึ่งทุกพรรคต่างตอบรับเข้าร่วมรัฐบาล

"เลี้ยบ" บอกอาจมีคนอื่นที่ไม่ใช่ 3 ส.

นพ.สุรพงษ์กล่าวถึงกรณีกลุ่มเพื่อนเนวินเสนอให้ขึ้นมาเป็นนายกว่า ทั้งหมดเป็นไปตามการประชุมของพลังประชาชน ไม่มีกลุ่มไม่มี แบ่งฝ่าย ทั้งหมดต้องอยู่ที่มติของพรรค คงไม่ได้หมายความว่ากลุ่มใดกลุ่มหนึ่งจะมามีบทบาทในการกำหนดได้ และน่าจะได้บทสรุปโดยที่ไม่จำเป็นต้องไปถึงว่ามีการโหวตกันว่าของใครมาก ของใครน้อย คงไม่ใช่อย่างนั้นแน่นอน
เมื่อถามว่าหมายความว่าใน 3 ส.อาจจะมีคนหนึ่งคนใดถอนตัวออกไปนพ.สุรพงษ์กล่าวว่า อาจจะมีบุคคลอื่นมากกว่า 3 ส.ก็ได้เพราะว่าไม่ได้จำกัดแค่ 3 คนเท่านั้นเพราะอีกหลายคนก็มีศักยภาพที่สามารถจะได้รับการพิจารณาด้วย



"สมชาย" มาแรงสุด-สมพงษ์ร่วง
รายงานข่าวเปิดเผยว่ามีการวิเคราะห์ภายในของ ส.ส.พรรคพลังประชาชน ล่าสุดนายสมชาย น่าจะมีโอกาสได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่มากที่สุด เพราะเป็นสายตรงตระกูลชินวัตร และนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาว พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องการผลักดันให้นายสมชาย ผู้เป็นสามี ขึ้นรับตำแหน่ง โดยอ้างถึงความเหมาะสม ความอาวุโส ประสบการณ์การทำงาน และมีบุคลิกประนีประนอม แม้บางส่วนจะติติงว่าอาจโดนโจมตีเรื่องสายสัมพันธ์กับ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่มองแล้วว่ารัฐบาลนี้อาจอยู่ไม่นาน เพราะคดียุบพรรคน่าจะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้ ฉะนั้นหากสถานการณ์เป็นแบบนี้ก็ควรจะเสี่ยงให้นายสมชายขึ้นเป็นผู้นำดีกว่า

ส่วนนายสมพงษ์แกนนำภาคเหนือ โอกาสน่าจะน้อยลงไปแล้ว และยังทราบมาว่านายสมพงษ์ไม่ต้องการรับตำแหน่งนายกฯ เพื่อป้องกันการเกิดความขัดแย้งภายในกลุ่ม ส.ส.ภาคเหนือและภายในพรรคด้วย อีกทั้งเมื่อมองประสบการณ์การทำงานแล้ว นายสมพงษ์ยังด้อยกว่าคนอื่นๆ

ขณะที่นพ.สุรพงษ์ ที่กลุ่มเพื่อนเนวินผลักดันอยู่นั้น แม้มีความสามารถและภาพลักษณ์ดี ก็ไม่น่าจะได้รับโอกาสนี้ เพราะภาพของ นพ.สุรพงษ์ ยังผูกติดกับแก๊งออฟโฟร์ หากยังขืนเสนอชื่อขึ้นเป็นนายกฯ ปัญหาในพรรคก็อาจไม่ได้รับการแก้ไข รวมทั้งอาจเกิดความขัดแย้งที่รุนแรงในพรรคขึ้นอีก

ส่วนพรรคร่วมรัฐบาลนั้นต่างทราบว่าพรรคพลังประชาชนจะเสนอนายสมชายเป็นนายกฯ ก็ยอมรับได้ เพียงแต่พรรคร่วมได้ยื่นเงื่อนไขอื่นประกอบ อาทิ การปรับ ครม.ชุดใหญ่ เพื่อกู้ภาพลักษณ์รัฐบาลให้กลับมาเร็วที่สุด และเตรียมกรุยทางให้ ส.ส.ในพรรคในการชิงคะแนนนิยมทางการเมือง รวมทั้งปูทางให้พรรคสำรองอย่างพรรคเพื่อไทยด้วย


"เติ้ง"ดิ้นขอคมนาคม-"สันติ"ส่อหลุด

รายงานข่าวแจ้งว่าเมื่อมีนายกฯ คนใหม่แล้ว การปรับ ครม.จะเกิดขึ้นแน่นอน เพราะตอนนี้ตำแหน่งนายกฯ และ รมว.กลาโหม ว่างลง รวมทั้งหากจะดึง 1 ใน 3 แกนนำพรรคขึ้นเป็นนายกฯ ก็ต้องปรับ ครม.ในส่วนนั้นทดแทนด้วยเช่นกัน จึงมองกันว่าน่าจะมีการปรับ ครม.ครั้งใหญ่ โดยทราบว่าจะมีการดึงโควตากลุ่มต่างๆ มาเกลี่ยกันใหม่ให้สมดุล เพราะที่ผ่านมาการจัดโผ ครม.กลุ่มอีสานใต้ได้โควตาสำคัญๆ ไปแทบทั้งนั้น และตอนนี้แกนนำภาคเหนือกำลังมีบทบาทและพยายามลดบทบาทของกลุ่มอีสานใต้ลงไปด้วย
ทั้งนี้พรรคร่วมรัฐบาลเริ่มต่อรองโควตารัฐมนตรีกันใหม่แล้วด้วย โดยพรรคชาติไทยขอกระทรวงเกรดเอเพิ่ม เช่น กระทรวงคมนาคม แต่มีแนวโน้มว่า พรรคพลังประชาชนจะไม่ปล่อยโควตา รมว.คมนาคมให้ แต่อาจมีการปรับ ครม.ตำแหน่งนี้ โดยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รักษาการ รมว.คมนาคม ซึ่งอยู่ในสายแก๊งออฟโฟร์ อาจจะต้องหลุดจากตำแหน่งไป ซึ่งเป็นไปตามกระบวนการสลายกลุ่มก๊วนดังกล่าว ส่วนพรรคเพื่อแผ่นดินมีรายงานว่า จะขอให้นายสุวิทย์ คุณกิตติ หัวหน้าพรรค กลับมามีตำแหน่งใน ครม.ชุดใหม่นี้ด้วย






พปช.มีมติเสนอชื่อ"สมชาย"

พ.ต.ท.กานต์เทียนแก้ว รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน คนสนิทนายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตรองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน กล่าวว่า ขณะนี้ได้ข้อสรุปที่ชัดเจนแล้วว่าพรรคพลังประชาชนจะเสนอชื่อนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รักษาการนายกรัฐมนตรี ต่อที่ประชุมสภา เพื่อให้ลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ในวันที่ 17 กันยายน และหากเกิดสถานการณ์อะไรที่ทำให้ไม่ลงตัว พรรคจะเสนอชื่อนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ เข้าไปแทน แต่ในส่วนของ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี คงเป็นนายกรัฐมนตรีไม่ได้ เพราะติดคดีหวยบนดินอยู่ ซึ่งคนที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีต้องปลอดสารพิษ เคลียร์ตัวเองต่อสังคมได้



พ.ต.ท.กานต์กล่าวต่อว่าเชื่อว่าไม่น่าจะเกิน 3 เดือนนี้ พรรคพลังประชาชนจะต้องถูกยุบอย่างแน่นอน โดยสมาชิกพรรคทั้งหมดก็จะไปสังกัดพรรคเพื่อไทยด้วยกัน ยกเว้นสมาชิกพรรคบางส่วนที่จะไปสังกัดพรรคการเมืองอื่น หรือไปตั้งพรรคการเมืองใหม่





"เจ๊แดง" เรียกประชุมดัน "สมชาย"



รายงานข่าวจากพรรพลังประชาชนแจ้งว่าเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่14 กันยายน แกนนำของพรรคพลังประชาชนและอดีตกรรมการบริหารพรรคไทย พร้อม ส.ส.ของพรรคบางส่วนได้มาร่วมหารือกันที่พรรค อาทิ นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ หัวหน้ากลุ่มวังบัวบาน นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย นายยงยุทธ ติยะไพรัช แกนนำกลุ่ม ส.ส.ภาคเหนือ ส่วน ส.ส.มีประมาณ10 คนอาทิ นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล ส.ส.แพร่พ.ต.ท.สมชายเพศประเสริฐ ส.ส.นครราชสีมานายศรีเมือง เจริญศิริ นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ ส.ส.สัดส่วนเป็นต้น



ผลการหารือของทั้งสองวงประชุมมีการหารือถึงสถานการณ์หลังจากกลุ่มเพื่อนเนวินพยายามผลักดัน นพ.สุรพงษ์ขึ้นเป็นนายกฯและได้หารือถึง 3 ส.ว่าใครเหมาะสมที่จะขึ้นเป็นนายกฯโดยแกนนำได้ไล่โทรศัพท์สอบถามความเห็น ส.ส.ว่าจะเอาใครเป็นนายกฯซึ่งเสียง ส.ส.ส่วนใหญ่สนับสนุนนายสมชายขึ้นเป็นนายกฯเพราะมองว่าเป็นบุคคลที่สามารถประสานได้กับทุกฝ่าย มีภาพรอมชอม จะทำให้ไม่มีใครแพ้ แต่ทุกฝ่ายจะชนะเหมือนกันหมด





"เนวิน" เร่งล็อบบี้หวั่นโดนสลายกลุ่ม



ขณะที่มีรายงานว่ากลุ่มอีสานใต้ของนายเนวิน ชิดชอบ ได้นัดหารือด่วนที่เซฟเฮ้าส์แห่งหนึ่งใน กทม.เพื่อผลักดันให้นพ.สุรพงษ์ขึ้นเป็นนายกฯให้ได้ หลังจากพลาดจากการผลักดันนายสมัคร เพราะว่าเกมนี้นายเนวินต้องการขับเคลื่อนให้สำเร็จ ไม่เช่นนั้นกลุ่มอีสานใต้จะหมดบทบาทในพรรคทันที เพราะมีหลายกลุ่มในพรรคไม่พอใจกลุ่มเพื่อนเนวินมานานแล้ว หากนายเนวินปล่อยให้เกมนี้แพ้ ก็เท่ากับว่าการต่อรองทางการเมืองภายในพรรคจะหมดไปทันที ดังนั้น นายเนวินจึงพยายามล็อบบี้ ส.ส.ให้ได้มากที่สุดในการสนับสนุนนพ.สุรพงษ์และอาจมีความหมายอีกอย่างหนึ่งคือ กลุ่มนี้เสนอชื่อนายกฯ ขึ้นไป หาก นพ.สุรพงษ์ไม่ได้รับชัยชนะในการเสนอชื่อกลุ่มนี้ก็จะใช้เป็นเหตุผลป้องกันการปรับ ครม.ในกลุ่มตัวเองที่อาจโดนปรับออกไปบางส่วนด้วย





ม็อบให้กำลังใจ"สมัคร"ที่บ้านพัก

เมื่อเวลา14.30 น. ที่หมู่บ้านโอฬาร ซอยนวมินทร์ 81 ซึ่งเป็นบ้านพักของนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรีนั้น มีสมาชิกชมรมคนจริงใจ รักประชาธิปไตย สถานีวิทยุชุมชนคนจริงใจ ประมาณ 250 คน มาให้กำลังใจนายสมัคร โดยนำกระเช้าดอกไม้และหนังสือให้กำลังใจมามอบให้ โดยมอบผ่านตัวแทนของนายสมัครภายในบ้านพัก อย่างไรก็ตาม ได้รับแจ้งว่านายสมัครเดินทางไปต่างจังหวัดตั้งแต่ช่วงเช้า





หึ่ง"ยงยุทธ"จับมือปชป.ตั้งรัฐบาล

แหล่งข่าวเปิดเผยว่าเมื่อเวลา 20.00 น.วันที่ 13 กันยายน ที่ผ่านมา แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ ได้แก่ นายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เดินทางไปพบนายยงยุทธ ติยะไพรัช แกนนำ ส.ส.ภาคเหนือ พรรคพลังประชาชน ที่โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ คาดว่าเป็นการหารือเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลในอนาคต ถ้าหากการเสนอชื่อนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีแล้วถูกกลุ่มเพื่อนเนวิน ที่มีเสียงในมือกว่า 80 เสียงขัดขวาง จนทำให้อาจต้องตัดสินใจยุบสภา คืนอำนาจให้ประชาชนในการเลือกตั้งใหม่



รายงานข่าวกล่าวว่าหากเป็นเช่นนั้นจริง พรรคพลังประชาชนก็จะแตกออกเป็นสองกลุ่ม คือกลุ่มของนายเนวินและอีกกลุ่มที่จะแยกไปตั้งพรรคเพื่อไทย ซึ่งมีกลุ่ม ส.ส.ภาคเหนือของนายยงยุทธและนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ รวมอยู่ด้วย ดังนั้นนายยงยุทธเคยเป็น ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์มาก่อน จึงติดต่อเจรจากับพรรคประชาธิปัตย์ และทั้งสองฝ่ายมีสัญญาใจกันว่า หากเกิดการยุบสภาและเลือกตั้งใหม่ขึ้นจริง พรรคเพื่อไทยพร้อมจะจับมือกับพรรคประชาธิปัตย์จัดตั้งรัฐบาลร่วมกัน




"ชวน"เรียกสุเทพแจงหนุนสมชาย

นายชวนหลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรค ให้การสนับสนุนนายสมชายว่า ในวันจันทร์นี้จะไปสอบถามนายสุเทพเหมือนกันว่า ที่ออกมาสนับสนุนนายสมชายเป็นนายกฯ เพราะอะไร มีเหตุผลใดที่เห็นว่านายสมชายเป็นนายกรัฐมนตรีได้ คงไม่ใช่เพราะเป็นคนใต้ หรือเป็นคนบ้านใกล้เรือนเคียงกับนายสุเทพ



นายชวนกล่าวถึงกรณีข่าวที่มีการพูดกันมากเกี่ยวกับการเมืองใหม่หรือรัฐบาลแห่งชาติว่า ไม่ว่าใครจะมาเป็นรัฐบาลก็ตาม หากไม่สามารถแก้ปัญหาการเมือง โดยเฉพาะตัวของนักการเมืองที่ยังมีการโกง ยังมีการทุจริต มีการเล่นการเมืองเป็นธุรกิจมากเกินไป รวมทั้งมีแทรกแซงองค์กรอิสระ สร้างความไม่เป็นธรรมต่อข้าราชการที่ไม่ฝักใฝ่หรือสนับสนุนพรรคการเมือง ก็ไม่สามารถจัดตั้งได้





พันธมิตรไม่เอา3 ส.เป็นนายกฯ

เมื่อเวลา10.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.จำลอง ศรีเมือง และนายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ให้สัมภาษณ์ถึงรายชื่อ 3 ส. แคนดิเดตว่าที่นายกฯ ว่า ทั้งหมดนี้รับไม่ได้ทั้งนั้น เพราะเคยกระทำความผิดมาแล้ว ไม่ว่าหน้าไหน ส.อะไรก็ตาม ไม่มีประโยชน์อะไร พวกนี้ไร้ซึ่งคุณสมบัติที่จะมาบริหารประเทศ



เราคุยกันแล้วว่าพวกพรรคร่วมรัฐบาลเป็นใครเราก็ไม่เอาทั้งนั้นไม่ใช่เฉพาะพลังประชาชน เพราะคนเหล่านี้สมคบ เมื่อก่อนอยู่พรรคเดียวกัน ทำเป็นทะเลาะแยกกันแล้วมารวมกัน สมคบกันทำผิด หลายกรรมหลายวาระซ้ำซาก คนพวกนี้จะหลอกประชาชนไปถึงไหน ควรยุติบทบาททางการเมืองไปได้แล้ว" นายสมศักดิ์กล่าว
เมินแลกข้อหากบฏกับนิรโทษ111 ทรท.



นายสมศักดิ์แถลงข่าวกรณีที่มีการเสนอนิรโทษกรรมข้อหากบฏต่อ9 แกนนำพันธมิตร แลกกับการนิรโทษกรรมอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย 111 คน นายสมศักดิ์กล่าวว่า เป็นความคิดของคนที่โง่ บ้า โกง และเขลาปัญญา เพราะ 111 คน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมีคำพิพากษาแล้ว และถือว่าเป็นศาลที่มีผลผูกพันกับรัฐมนตรี ผูกพันกับสภา ผูกพันต่อศาล แต่ 9 คนเป็นข้อกล่าวหาที่ไม่มีมูล ไม่มีเหตุผล เราไม่ใช่กบฏ รัฐบาลนี้ต่างหากที่เป็นกบฏ



เมื่อถามว่ามีการยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้ว จะส่งผลต่อการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรอย่างไร นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ไม่ส่งผลอะไร เราชุมนุมกันตามปกติ เพราะ พ.ร.ก.นี้ไม่ได้มีผลอะไร เป็นการพยายามช่วย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ให้ลี้ภัยทางการเมือง และด้านหนึ่งก็เพื่อต้องการมาปราบปรามพันธมิตร
โพลล์เผยปชช.ไม่ต้าน3 ส.เป็นนายกฯ



ดร.นพดลกรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลวิจัยเรื่อง วาระแห่งชาติในสายตาประชาชนที่ต้องการให้นายกรัฐมนตรีคนใหม่เร่งแก้ไข กรณีศึกษาประชาชนที่มีสิทธิเลือกตั้งในกรุงเทพมหานครและจังหวัดปริมณฑล จำนวนทั้งสิ้น 2,809 ตัวอย่าง ซึ่งดำเนินโครงการวันที่ 12-13 กันยายน



นอกจากนี้ผลสำรวจยังชี้ให้เห็นว่า ประชาชนส่วนใหญ่กำลังให้ความสนใจต่อประวัติและผลงานของแกนนำพรรคพลังประชาชนที่มีโอกาสจะเป็นนายกรัฐมนตรีแตกต่างกันไป (เมื่อตอบได้มากกว่า 1 คน) พบว่า ร้อยละ 58.6 สนใจนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ร้อยละ 51.2 สนใจนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ และร้อยละ 48.3 สนใจ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ในขณะที่ร้อยละ 41.5 ไม่สนใจใครเลย



อย่างไรก็ตามผลสำรวจยังพบว่า ประชาชนส่วนใหญ่หรือร้อยละ 68.7 ไม่คิดจะแสดงตนคัดค้านแกนนำพรรคพลังประชาชนในการเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป กรณีพรรคพลังประชาชนเสนอคนหนึ่งคนใดในแกนนำทั้งสาม โดยให้เหตุผลเพราะความถูกต้อง เป็นประชาธิปไตย อยากเห็นความสงบสุขของบ้านเมือง ไม่อยากให้ประเทศชาติเสียหาย และไม่ชอบความวุ่นวาย เป็นต้น ในขณะที่ร้อยละ 19.7 คิดว่าจะคัดค้าน และที่เหลือร้อยละ 11.6 ไม่มีความเห็น






โหรคมช.ชี้3 ส.ยังบารมีไม่ถึง


นายวารินทร์บัววิรัตน์เลิศ หรือ "โหร คมช." แห่งวิหารหลวงปู่เกวาลัน สำนักสุขิโต อ.เมือง จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า สถานการณ์การบ้านการเมืองในประเทศไทยตอนนี้เริ่มคลี่คลาย เบาบาง และดีขึ้นตามลำดับ โดยกลางปี 2552 คาดว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย วิบากกรรมต่างๆ ก็จะเข้าสู่ภาวะปกติ สำหรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่นั้น บอกได้เลยว่าจากการตรวจบุญบารมี ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะเป็นใคร ขอเวลาอีกประมาณ 1 สัปดาห์จะสามารถระบุผู้ที่มีความเหมาะสม

ผู้สื่อข่าวถามว่า3 ส.ที่มีกระแสข่าวว่าอาจจะได้ดำรงตำแหน่งนายกฯ มีความเป็นไปได้หรือไม่ นายวารินทร์ กล่าวว่า บุคคลทั้งสามเป็นเพียงตัวเลือกหนึ่งเท่านั้นแต่บารมียังไม่เพียงพอในการประคองบ้านเมืองให้พ้นวิกฤติได้ แต่ถ้าได้นั่งเก้าอี้นี้จริงก็อาจจะไม่เกิน 3 เดือนอย่างแน่นอน ส่วนเรื่องการนองเลือดนั้นจะไม่เกิดขึ้น แต่อาจจะมีกระทบกระทั่งกันบ้างเล็กน้อยเท่านั้น



นปช.นัดชุมนุมสนามหลวงศุกร์นี้นายสมยศพฤกษาเกษมสุข แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวว่า ภายหลังจากที่ยกเลิกการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทำให้ในวันศุกร์ที่ 19 กันยายน นี้ กลุ่ม นปช.จะกลับมาชุมนุมขับไล่กลุ่มพันธมิตร อีกครั้งที่ท้องสนามหลวง ในเวลา 17.00 น. เป็นต้นไป โดยขณะนี้แกนนำกำลังติดต่อประสานงานกันภายในกลุ่มถึงการดำเนินการขั้นต่อไป แต่ในช่วงนี้จะยังไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ



อย่างไรก็ตามนายสมยศไม่ยืนยันว่า จะมีการปะทะกับกลุ่มพันธมิตรอีกครั้งหรือไม่ โดยอ้างว่ากลุ่ม นปช.ไม่มีกำลังเพียงพอที่จะดูแลผู้ชุมนุมให้อยู่ในความสงบเรียบร้อย
คุมเข้มความปลอดภัยหลังนปช.ขู่ชุมนุม



เมื่อเวลา19.00 น.นายสุริยใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มพันธมิตร แถลงข่าวถึงการที่ นปช.ประกาศจะชุมนุมใหญ่ที่ท้องสนามหลวงในวันที่ 19 กันยายน ว่า โอกาสที่กลุ่มผู้ชุมนุม นปช.จะเข้ามาปะทะกับกลุ่มพันธมิตรมีโอกาสสูง เนื่องจากท่าทีการให้สัมภาษณ์ของแกนนำ นปช.เป็นไปอย่างยั่วยุ บอกว่า นปช.ไม่รับประกันว่าจะสามารถควบคุมได้หรือไม่ ซึ่งหลังจากนี้ไปพันธมิตรต้องยกระดับความปลอดภัยให้มากขึ้น เนื่องจากไม่มั่นใจในการรักษาความปลอดภัยของตำรวจ



ส่วนกรณี3 ส. ที่เป็นตัวเก็งในการเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่นั้น นายสุริยะใสกล่าวว่า ขอตั้งฉายาว่า 3 ส.สายล่อฟ้า เพราะไม่ว่าจะเป็น ส.ไหน พันธมิตรก็ไม่ยอมรับ เพราะทั้งหมดเชื่อมโยงกับอดีตนายกฯ ทักษิณ ไม่ว่า ส.ไหนจะมาเป็นนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 17 กันยายน การชุมนุมของพันธมิตรจะไม่ยุติอย่างแน่นอน และจะยืดเยื้อต่อไปโดยไม่มีกำหนด






"เติ้ง"เชื่อโหวตไร้ปัญหา-ปัดชท.ต่อรอง

เมื่อเวลา21.00 น. มีหารือระหว่าง 3 ส.แกนนำพรรคพลังประชาชน กับนายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล และนายวราวุธ ศิลปอาชา ที่บ้านพักนายบรรหาร ถนนจรัญสนิทวงศ์ โดยใช้เวลาหารือเพียง 20 นาทีเท่านั้น นายบรรหารออกมาเปิดเผยว่า พรรคพลังประชาชนมาเชิญพรรคชาติไทยให้ร่วมรัฐบาล ซึ่งเรามีจุดยืนที่รักษาคำพูด จึงขอให้พรรคพลังประชาชนสบายใจได้ เพราะเมื่อเลือกใครขึ้นมาใน 3 ส.ก็คงไม่มีปัญหา เชื่อว่าการโหวตเลือกนายกฯ พุธนี้จะไม่มีปัญหา ทุกอย่างจะเรียบร้อย



ส่วนข้อครหาที่ว่านายสมชายเป็นเครือญาติกับ พ.ต.ท.ทักษิณจะถูกต่อต้านหรือไม่ นายบรรหาร กล่าวว่า ยังไม่รูเลยว่าใครเป็นนายกฯ ยังตอบไม่ได้ แต่ยืนยันว่าพรรคชาติไทยไม่มีเงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้น เชื่อว่าสถานการณ์การชุมนุมจะคลี่ลายไปในทางที่ดี ตนไปดูหมอมาแล้ว ก็บอกว่าจะมีปัจจัยที่ดีขึ้น นอกจากนี้ยังได้คุยกับตัวแทนพรรคพลังประชาชน ถึงภารกิจของรัฐบาลหลังจากนี้ว่า จะต้องทำให้เกิดความปรองดอง และมีแนวทางบริหารงานต่อไปเป็นระยะยาว ไม่ได้กำหนดเรื่องยุบสภา อาจจะอยู่ถึงปีหน้าก็ได้
ด้านนายสมชายปฏิเสธจะตอบคำถามว่าพร้อมจะเป็นนายกฯหรือไม่ โดยบอกว่าขอให้เป็นขั้นตอนของสมาชิกพรรค ก่อนจะขึ้นรถเดินทางกลับ







ที่มา : http://www.kanmuang.org/forum/data/3/0368-1.html

วันอังคารที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2551

ด่วน!มติศาล"หมัก"พ้นนายกฯ พปช.ดันนั่งเก้าอี้รอบ2






ศาลรธน.วินิจฉัยกรณี "สมัคร"จัดรายการชิมไปบ่นไป และยกโขย่งหกโมงเช้า มีมติเอกฉันท์ให้พ้นจากตำแหน่งนายกฯ
ด้านพปช. เตรียมผลักดัน"หมัก"เป็นนายกฯรอบ 2
(9ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 15.30 น. นายชัช ชลวร ประธานคณะตุลาการรัฐธรรมนูญ
ออกนั่งบัลลังก์อ่านคำวินิจฉัยคำร้องของส.ว.และกกต.ที่ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยคุณสมบัติความเป็นรัฐมนตรี ของนายสมัคร สุนทรเวช นายกฯ
ในการจัดรายการชิมไปบ่นไปและรายการยกโขยง 6 โมงเช้า โดยตุลาการรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ 9 ต่อ 0 ให้นายสมัคร สุนทรเวช พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี



ก่อนหน้านนั้น นายสุขุมพงษ์ โง่นคำ ส.ส.สัดส่วน และคณะทำงานด้านกฎหมายพรรคพลังประชาชน


กล่าวกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดฟังคำวินิจฉัยคดีชิมไปบ่นไปของนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ว่า แนวทางที่ศาลจะวินิจฉัยนายสมัครมี 2 ทาง


1.เป็นนายกรัฐมนตรีต่อหรือไม่ และ 2.ไม่ได้เป็น เพราะขัดมาตรา 182 วงเล็บ 7 ประกอบรัฐธรรมนูญในมาตรา 267


ซึ่งกรณีที่ศาลมีคำวินิจฉัยว่านายสมัคร มีการกระทำที่ต้องห้ามต่อคุณสมบัติการเป็นนายกฯ


และต้องพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี วมถึงคณะรัฐมนตรีทั้งคณะก็พ้นจากการทำหน้าที่เช่นเดียวกันนั้น


หลังจากนี้เมื่อศาลส่งคำวินิจฉัยมายังสภาฯประธานสภาก็จะต้องแจ้งให้สมาชิกสภาเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่


ทั้งนี้ในกรณีของนายสมัคร ถือเป็นกรณีเดียวกับนายไชยา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพานิชย์


ที่เคยพ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขไปแล้ว แต่สามารถกลับมาดำรงตำแหน่งในฝ่ายบริหารได้ใหม่


แม้ในที่สุดศาลวินิจฉัยว่ามีการกระทำการต้องห้ามทำให้พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไป แต่สถานะความเป็นส.ส.ยังคงอยู่


ดังนั้นนายสมัครก็สามารถจะปฎิบัติหน้าที่ในส่วนของส.ส.ได้ และมีสิทธิที่จะได้รับการโหวตเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง


แต่ต้องหยุดการกระทำต้องห้าม ส่วนสมาชิกพรรคพลังประชาชนจะเลือกนายสมัครมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกหรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ


แต่สถานการณ์ขณะนี้นายสมัคร ยังมีคุณสมบัติที่เหมาะสมในการเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่ เว้นแต่จะมีเหตุการณ์พิเศษอะไรเกิดขึ้น”นายสุขุมพงษ์กล่าว




















http://tnews.teenee.com/politic/26670.html

วันอาทิตย์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2551

นศ.กู้ชาติ !! เปิดเวทีขับไล่"หมัก"!!

ม็อบพันธมิตรฯคึกคัก เครือข่ายเยาวชนกู้ชาติหรือ Young PAD Group
ซึ่งเป็นนักเรียนนักศึกษากว่า 80 สถาบันแห่ร่วมชุมนุม แกนนำเครือข่ายเยาวชนประกาศ หากรัฐบาลไม่ลาออก นักศึกษา นักเรียน
นัดหยุดเรียนประท้วง 9-11 กันยายน หาก"สมัคร"ไม่ออกพร้อมหยุดยาว
(6ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ว่า


วันนี้มีนักศึกษาจำนวนมากจากทุกสถาบันทยอยเดินทางเข้าร่วมชุมนุม
ที่บริเวณเวทีพันธมิตรฯ สะพานมัฆวานฯ
โดยมีแกนนำเครื่อข่ายเยาวชนกู้ชาติเพื่อประชาธิปไตย
จัดเตรียมสถานที่และตั้งโต๊ะลงทะเบียนนักเรียน นิสิตและนักศึกษาจากทุกสถาบัน ส่วนเวทีพันธมิตรฯสะพานมัฆวานฯ กลุ่มพันธมิตรยกให้เป็นพื้นที่การแสดงออก
และทำกิจกรรมของเยาวชน มีแกนนำพันธมิตรฯ เช่น นายพิภพ ธงไชย และนายวีระ สมความคิดรวมถึงนักดนตรีผลัดเปลี่ยนขึ้นเวทีปราศรัย
และเล่นดนตรีเพื่อสร้างความคึกคักให้ทั่วพื้นที่เวทีสะพานมัฆวานฯ ตลอดเวลานายวสันต์ วานิช แกนนำเครือข่ายเยาวชนฯ เปิดเผยว่า



การชุมนุมของเยาวชนวันนี้มีผู้เข้าร่วมกว่า 80 สถานศึกษาทั่วประเทศ แต่ที่มาถึงแล้วลงทะเบียนไว้มีจำนวนไม่ต่ำกว่า 50 สถานศึกษา
โดยคาดว่าส่วนที่เหลือจะทยอยเข้าร่วมชุมนุมในช่วงกลางคืนในส่วนของรายชื่อจะลงทะเบียนเฉพาะแกนนำของสถานศึกษาเท่านั้นเพื่อเป็นเครื่องยืนยันว่า
กลุ่มเยาวชนมีพลังมากพอที่จะหยุดเรียนเพื่อกดดันรัฐบาล โดยกำหนดการจะใช้ยุทธการณ์ดาวกระจายเคลื่อนขบวนไปยังอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
และอีกจุดหนึ่งกำลังดูความปลอดภัย หากปลอดภัยจะจัดกำลังอีกชุดหนึ่งให้เคลื่อนไปยังหน้า บช.น.
โดย 2 จุดเมื่อเคลื่อนขบวนไปถึงจะจุดเทียนและอ่านแถลงการณ์หยุดเรียนทั่วประเทศวันที่ 9-11 ก.ย.นี้


การนัดหยุดเรียนนี้ เป็นเพียงมาตรการเริ่มต้นเท่านั้น เพื่อดูท่าทีรัฐบาล
หากยังไม่ยอมลาออกจะหยุดเรียนต่อไปอย่างต่อเนื่อง โดยจะสลับกันหยุดเรียนทั่วประเทศ
อย่างน้อยแห่งละ1 คณะวิชา ไปจนกว่ารัฐบาลจะลาออก
และกำลังอยู่ระหว่างปรึกษาว่า
การนัดหยุดเรียนจะให้อิสระแต่ละสถาบันหรือรวมกันหมด พร้อมระบุว่าการนัดหยุดเรียนครั้งนี้
มีผลกระทบต่อการเรียนอย่างมาก เนื่องจากอยู่ระหว่างการสอบปลายภาค ที่จะเริ่มขึ้นในสัปดาห์หน้า


นายวสันต์ กล่าวว่า ที่ออกมาแสดงพลังครั้งนี้เพื่อแสดงให้นักเรียน นักศึกษารู้ว่า การทำหน้าที่ของเยาวชนไทยที่ดี ไม่ใช่เอาแต่เรียนเท่านั้น
ต้องออกมาต่อสู้กับสิ่งที่จะกระทบต่อสังคมส่วนรวมด้วย

เพราะหากจบออกมาแล้ว แต่ขาดอุดมการณ์ จะเป็นสังคมของคนที่ไร้สติ






Members of the Young PAD group
protest at the Democracy Monument
last night, demanding Prime Minister
Samak Sundaravej step down.!!!




วันอังคารที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2551

พธม.ย้ำยอมเจรจาหากสมัครลาออก!!

สมศักดิ์ แกนนำพธม.พร้อมเจรจากับผบ.ทบ.
หาก"สมัคร"ลาออกและพปช.ยอมเว้นวรรคทางการเมือง

นายสมศักดิ์ โกศัยสุข หนึ่งในห้าแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
ระบุพร้อมที่จะเจรจากับคณะนายทหารที่ได้รับมอบหมายจาก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.)
ในฐานะหัวหน้ารับผิดชอบการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน หากนายสมัคร สุนทรเวช ยอมลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
และพรรคพลังประชาชน(พปช.)เว้น วรรคทางการเมือง
"ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขของพันธมิตรฯ คือ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ต้องลาออก
และพรรคพลังประชาชนต้องไม่เป็นรัฐบาล เพื่อตัดวงจรอุบาทว์ทางการเมืองที่ฝังลึกในสังคมไทยมานานกว่า 7-8 ปีแล้วให้สิ้นซาก"
นายสมศักดิ์ กล่าว


อย่างไรก็ตาม ขณะนี้แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ยังไม่รับการติดต่อจาก ผบ.ทบ.และไม่รู้ว่าจะเจรจาอะไร เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะนี้เลยเวลาที่จะเจรจากันแล้ว โดยกลุ่มพันธมิตรฯ ยังยืนยันที่จะปักหลักชุมนุมต่อไปเนื่องจากรัฐบาลที่มีพรรคพลังประชาชนเป็นแกนนำไม่มีความชอบธรรมที่จะบริหารประเทศต่อไปได้แล้ว หลังจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) มีมติส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยพรรค พปช.และทำผิดรัฐธรรมนูญมาตรา 190 กรณีออกแถลงการณ์ไทย-กัมพูชา เรื่องปราสาทพระวิหาร


In an exclusive interview with the Bangkok Post Mr Sondhi said he was contemplating a four-point compromise as the political situation appeared at a dead end.
But he stressed that the proposal would be viable only after Prime Minister Samak Sundaravej stepped down from office -- the core objective of the PAD's rally.
Mr Sondhi said the government must promise not to amend the charter in its favour;
to observe the Constitution Court's order regarding Preah Vihear temple;
to suspend all mega-projects; and to commit to political reforms and increased public participation in politics. Mr Sondhi said the four-point demand was strictly his own proposal,
not the PAD's. He had yet to put the matter to other core members.



วันศุกร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2551

Coup d'etat could not solve the tension : Army chief







Coup d'etat could not solve the tension : Army chief


Army Commander in Chief Gen Anupong Paojinda said a coup d'etat
could not solve the ongoing political tension in the country after
police clashed with anti-government protesters.
He reiterated that the army will not get involved in the matter
and it is confident that police can handle the situations.

"We are sure that police can handle the situation,
but we do not want to see any violence happened to unarmed protesters,'
he said.




It is true that the army is worried about what has happening in the country
but the army can get involve only at the order of
Prime Minister Samak Sundaravej.

Anupong said he already conveyed a message to Police Commissioner Pol Gen Patcharawat Wongsuwan that police should not use severe measures on the protesters.
The army is monitoring the situation closely.
He was speaking after meeting with Samak.
Prime Minister Samak chairs an urgent meeting with army top brass
on Friday afternoon amid rising political tension after police clashed
with anti-government protesters.
Samak who is also defence minister rushed to the meeting which started
at 2pm the Defence Council.
Army chief Gen Anupong arrived at the meeting with a grim face.
He declined to answer press questions.
Supreme Commander Gen Boonsrang Niempradit told reporters that
the military has just monitored the situation.

"We will not get involved in the situation.
We believe that police can handle the situation," he said.

Navy Commander in Chief Admiral Sathirapan Keyanon said
he did not worry about the situation. The prime minister will be in charge of making decision.



วันนี้ (29 ส.ค.) เมื่อเวลา 10.10 น. เจ้าหน้าที่ปราบจลาจลหลายพันนายได้พังประตูหน้าฝั่งตรงข้ามกระทรวงศึกษาธิการ
ในระหว่างที่กลุ่มผู้ชุมนุมยังไม่ทันตั้งตัว แม้จะมีการเรียกระดมพล แต่ตำรวจสามารถฝ่าวงล้อมเข้าไปได้
ขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุมคว้าของใกล้มือ ไม่ว่าจะเป็นเหล็ก เก้าอี้ ขว้างใส่ตำรวจ
แต่ตำรวจเข้าประชิดตัวและมีการจับตรวจค้นก่อนปล่อยตัว
และบังคับให้กลุ่มผู้ชุมนุมไปรวมตัวกันบริเวณด้านหน้าทำเนียบรัฐบาล
ทั้งนี้ตำรวจบางนายได้ทำรุนแรงเกินกว่าเหตุด้วยการใช้ปืนจี้หัวประชาชนให้ออกไปจากพื้นที่
การบุกเข้าในพื้นที่ครั้งนี้เนื่องจากตำรวจต้องการพื้นที่ครึ่งหนึ่งของทำเนียบรัฐบาล คือตั้งแต่ประตู 5
ตึกสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีไปจนถึงตึกสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี


นี่ขนาดว่าไม่อยากเห็นความรุนแรงนะเนี่ย...



"In ur opinion .. who is do any violence?
Police or People's Alliance for Democracy?"

วันอังคารที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2551

Police and PAD in a standoff at Gov't House..!



Police and PAD in a standoff at Gov't House..!









As of Wednesday's morning, about 1,000 policemen
have been deployed to secure about half of the Government House compound,
from the back of the Thai Khu Fah Building all the way to the back gate
fronting Rajdamnoen Nok Avenue.
Thousands of protesters led by the People's Alliance for Democracy
are occupying the lawn in front of the Thai Khu Fah Building.
Since 3.00 am, police have managed to gain control of gates,
except one facing the Rama V Road which the PAD could still use for
maintaining contacts with its main rally site at Makawan Rangsan Bridge.

At around 6am, PAD leader Chamlong Srimuang made a morning speech
advising the crowds on how to brace for anti-riot measures.
Organisers started to encourage the crowds at the main rally site to move to
the Government House lawn in order to boost the numbers,
seen as a move to deter the forced eviction by police.
The Nation ..




***ตำรวจนับพันบุกทำเนียบ รักษาความเรียบร้อย ***

เมื่อเวลาประมาณ 03.00 น. วันนี้ (27 สิงหาคม) เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจลาจลและกำลังตำรวจตระเวนชายแดน
พร้อมโล่ห์และตะบองครบชุดกว่าพันนาย พยายามบุกเข้าทำเนียบรัฐบาลด้านประตู 4 ถนนพิษณุโลก

ซึ่งสามารถเข้าไปได้บางส่วน แต่โดนกลุ่มป้องกันการชุมนุมของพันธมิตร (การ์ด) พยายามผลักออกไปจนถึงนอกประตู
แต่กำลังของเจ้าหน้าที่ตำรวจมีมากกว่า จึงใช้ตะบองตีกลุ่มพันธมิตรจนหัวแตกนับสิบคน ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถทะลุประตู 4
เข้าไปได้กว่าพันคน และปักหลักกำลังอยู่บริเวณตึกสันติไมตรี
ทั้งนี้ กำลังตำรวจที่บุกเข้าทำเนียบรัฐบาลได้เริ่มทะยอยปิดล้อมกลุ่มผู้ชุมนุมและเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ
ทำให้ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ต้องประสานกลุ่มพันธมิตรฯที่สะพานมัฆวานให้มาเสริมทัพที่ทำเนียบรัฐบาล
เนื่องจากตำรวจได้ทะยอยปิดล้อมกลุ่มผู้ชุมนุมที่ละจุด ทำให้กลุ่มรักษาความปลอดภัยของพันธมิตรต้องไปตั้งแนวประจันหน้า
กับตำรวจปราบจลาจลที่หลังตึกไทยคู่ฟ้า ส่วนพันธมิตรอีกกลุ่มแยกตัวไปตั้งแนวประจันหน้ากับตำรวจที่ถนนพิษณุโลก
บริเวณประตู 4 และประตู 7 ด้านคลองผดุงกรุงเกษม

อย่างไรก็ตาม การปราศรัยบนเวทีพันธมิตรฯ แกนนำบางส่วนยังคงดำเนินรายการต่อไป
ช่วงหนึ่งนายสมศักดิ์ โกศัยสุข ได้ขึ้นชี้แจงให้กลุ่มผู้ชุมนุมไม่ต้องกลัวการบุกเข้ามาของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะไม่ได้กระทำความผิด
สำหรับสถานการณ์ทั่วไป เบื้องต้นยังไม่มีการสลายการชุมนุม !!
ด้าน พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผบ.สส. กล่าวว่า เฝ้าประเมินสถานการณ์ และทหารไม่ออก
อยู่ดี ๆ คงไม่ออกหรอก ทหารก็เป็นกลางทางการเมือง ทหารมีวินัย ว่าจะต้องทำตัวอย่างไร
ที่นายกฯบอกว่าให้เลือกข้างคงไม่ได้หมายถึงทหาร
ตอนนี้ทหารตามสถานการณ์ อะไรที่ทำไปตามกฎหมาย
ไม่ใช่อยู่ดีๆ ออกไปเคลื่อนไหวทำโน่น ทำนี่ ส่วนเรื่องการรัฐประหาร ทหารไม่อยากทำ ส่วนตัวอยากให้จบเรียบร้อย




As you are Thai people,
what do you have any opinion for this case?

วันอังคารที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2551

ทักษิณพาครอบครัวช็อป หลังร่อนแถลงการณ์ลี้ภัย!!!




หลังจากที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา ได้ตัดสินใจไม่กลับประเทศไทย!!
และไม่มารายงานตัวต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง


โดยเดินทางไปลี้ภัยอยู่ที่ประเทศอังกฤษ พร้อมออกแถลงการณ์วานนี้ (11 ส.ค.) นั้น สำนักข่าวเอพีรายงานว่า
วันเดียวกันพ.ต.ท.ทักษิณ คุณหญิงพจมาน นายพานทองแท้ น.ส.พินทองทา และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร รวมทั้งผู้ติดตาม
เดินช็อปปิ้ง ที่เมืองกิลด์ฟอร์ด ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวของประเทศอังกฤษที่ได้รับความนิยม

โดยอดีตนายกรัฐมนตรีของไทยมีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส

วันเดียวกัน นสพ.เดลี่เมล์ ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ
พาดหัวว่า
ทักษิณบินไปลอนดอน ดีกว่าเจอข้อหาคอรัปชัน




พร้อมรายงานข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ พร้อมภริยาและครอบครัว
ได้เดินทางไปขอลี้ภัยอยู่ในกรุงลอนดอน
โดยไม่กลับไปขึ้นชั้นศาลในคดีคอรัปชัน


โดยพ.ต.ท.ทักษิณ มีกำหนดการเดินทางกลับกรุงเทพฯ
หลังจากร่วมพิธีเปิดกีฬาโอลิมปิกที่กรุงปักกิ่งสาธารณรัฐประชาชนจีน


นสพ.เดลี่เมล์รายงานด้วยว่า หาก พ.ต.ท.ทักษิณตัดสินใจไม่เดินทางกลับไปสู้คดีต่อ
ก็อาจเป็นการส่งสัญญาณทางการเมืองครั้งใหญ่

ที่อาจจะช่วยให้สถานการณ์ความตึงเครียดในไทยเบาบางลง
รวมถึงส่งผลดีต่อตลาดหลักทรัพย์ในประเทศไทย
ที่ตกต่ำมาตลอดในช่วง
3 ปีที่ผ่านมา

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ



source : http://tnews.teenee.com/politic/25857.html




...

วันแม่ .. อย่าลืมบอกรักแม่กันเน้อเพื่อนๆๆ
ลุ้นคะแนน Politics!!!!!! จะผ่านมั้ยเนี่ย หือหือ T-T

วันอังคารที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

"ฮุนเซน"ฟ้อง"ยูเนสโก"ไทยคุกคาม


ด้านสำนักข่าวต่างประเทศรายงานความคืบหน้าความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชากรณีเขาพระวิหาร ว่า กระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา เปิดฉากรุกทางการทูต


ด้วยการยื่นเรื่องส่งตรงถึงทั้งคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) และอาเซียน ให้เร่งเข้ามาเป็นตัวกลางยุติข้อพิพาทที่เกิดขึ้น โดยขอความช่วยเหลือจากยูเอ็นเอสซี ขอให้รีบเปิดประชุมฉุกเฉิน เพื่อกำหนดมาตรการบรรเทาสถานการณ์ตึงเครียดชายแดนไทย-กัมพูชา โดยยึดแนวทางกฎหมายระหว่างประเทศเป็นหลัก หลังจากการเจรจาระดับสูงระหว่างทั้ง 2 ประเทศล้มเหลว

นายบัน คีมุน เลขาธิการสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้กัมพูชาและไทยอดทน

หลังจากที่การเจรจาระหว่าง 2 ประเทศล้มเหลวในการแก้ปัญหาชายแดนเขาพระวิหาร ทั้งนี้ นายบัน คีมุนแสดงความกังวลต่อสถานการณ์ความตึงเครียดดังกล่าว ว่าจะกลายเป็นความรุนแรง รวมถึงการเพิ่มกำลังทหารในพื้นที่ โดยหวังว่าปัญหาที่เกิดขึ้นจะสามารถแก้ไขอย่างสันติวิธีด้วยวิธีทางการทูต

นอกจากนี้ ทางสำนักข่าวเอเอฟพียังรายงานด้วยว่า นายฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ส่งจดหมายถึงองค์การศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือยูเนสโก

ในฐานะผู้รับขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก จนกลายเป็นชนวนเหตุของความขัดแย้งกับประเทศไทย ว่าฝ่ายไทยกำลังแสดงพฤติกรรมคุกคามเสถียรภาพในภูมิภาคอย่างรุนแรง และฝ่าฝืนหลักการทุกประการที่เขียนไว้ในกฎหมายระหว่างประเทศ ภายหลังจากยกกำลังทหาร และขนอาวุธหนักมาประชิดใกล้กับปราสาทเขาพระวิหาร ทั้งที่ปราสาทพระวิหารแห่งนี้ได้รับความคุ้มครองในฐานะมรดกโลก
ทางรัฐบาลกัมพูชาจึงขอให้ยูเนสโก นำเรื่องนี้ไปปรึกษากับเลขาธิการยูเอ็น และคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็น

เพื่อให้ออกมาตรการแก้ไขปัญหาด้วยสันติวิธี และหลีกเลี่ยงไม่ให้ทหารทั้ง 2 ฝ่ายปะทะกัน เพราะไม่เช่นนั้นปราสาทพระวิหารอาจได้รับความเสียหาย เพราะผลจากการเผชิญหน้าทางทหารที่เกิดขึ้นมานานนับสัปดาห์แล้ว

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด


วันศุกร์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

เปิดหนังสือยื่นถอดถอน ครม.ทั้งคณะฝ่าฝืน รธน.ขายอธิปไตยชาติ


วันนี้(11ก.ค.) แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ประกอบด้วย นายพิภพ ธงไชย นายสมศักดิ์ โกศัยสุข และ นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ ได้เดินทางไปที่รัฐสภา เพื่อยื่นหนังสือต่อประธานวุฒิสภาให้ดำเนินการถอดถอนรัฐมนตรีออกจากตำแหน่งทั้งคณะ กรณีมีมติเห็นชอบแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชาเรื่องการจดทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก ซึ่งศาลปกครองมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวไม่ให้นำไปใช้ดำเนินการ และศาลรัฐธรรมนูญมีมติว่าเป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา190

ที่ พันธมิตรฯ พิเศษ/2551



11 กรกฎาคม 2551

เรื่อง ขอใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญถอดถอนบุคคลออกจากตำแหน่ง

กราบเรียน ฯพณฯ ประธานวุฒิสภา

สิ่งที่ส่งมาด้วย รายนามรัฐมนตรีที่ต้องดำเนินการถอดถอน

อ้างถึง คำวินิจฉัย ที่ 6-7 / 2551 เรื่องพิจารณาที่ 23 /2551 และเรื่องพิจารณาที่ 24/2551 ศาลรัฐธรรมนูญ ลงวันที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ.2551

ด้วยข้าพเจ้า ดังรายนามข้างท้าย เห็นว่า พฤติการณ์ของคณะรัฐมนตรีในรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ที่เห็นชอบให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ร่วมลงนามในเอกสารแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชา ซึ่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้พิพากษา ว่า เป็นหนังสือสัญญาตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 ซึ่งต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภาก่อน แต่คณะรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกลับมิได้ดำเนินการ แม้มีเสียงคัดค้านจากสังคมก็ตาม

นอกจากนี้ การดำเนินของคณะรัฐมนตรีในรัฐบาล นายสมัคร สุนทรเวช ยังเป็นไปแบบเร่งรีบ ปกปิด และไม่โปร่งใส จนเปิดช่องและเอื้อประโยชน์ ให้รัฐบาลกัมพูชาสามารถขอขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกแต่เพียงฝ่ายเดียว จนเป็นผลสำเร็จท่ามกลางความผิดหวังของประชาชนคนไทย

เมื่อพิจารณาพฤติการณ์การบริหารราชการแผ่นดินของคณะรัฐมนตรี (ดังเอกสารที่ส่งมาด้วย) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการตางประเทศ นายนพดล ปัทมะ เป็นการดำเนินการที่ส่อว่าจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัอต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ มาตรา 270

ซึ่งพฤติการณ์ที่กล่าวมาข้างต้นจำเป็นต้องได้รับการตรวจสอบตามรัฐธรรมนูญ เพื่อนำไปสู่การถอดถอนออกจากตำแหน่ง ข้าพเจ้าและแกนนำดังรายชื่อข้างท้าย จึงขอแสดงตนต่อท่านประธานวุฒิสภาเป็นผู้ริเริ่มขอใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 มาตรา 164 โดยการลงรายมือชื่อเพื่อให้วุฒิสภา มีมติตามมาตรา 274 ให้ถอดถอนบุคคลตามมาตรา 270 ออกจากตำแหน่งต่อไป

จึงเรียนมาเพื่อทราบและโปรดพิจารณาดำเนินการ

ขอแสดงความนับถือ
พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยและเครือข่าย
................................................ ......................................................
(นายพิภพ ธงไชย) (นายสมศักดิ์ โกศัยสุข)
................................................ .......................................................
(นายเทิดภูมิ ใจดี) (นายศิริชัย ไม้งาม)
…………………………………
(นายสุริยะใส กตะศิลา)
ที่มา:http://www.norsorpor.com

วันจันทร์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2551

แฉ !!! สันติถูกม.รามไล่ออก ให้บุคคลอื่นสอบแทน !









จากความผิดพลาดอันใหญ่หลวงในอดีตสมัยเป็น ,,นักศึกษา,,
ถูกนำออกมา "แฉ" ในขณะที่เป็น ,,รัฐมนตรี,,
"ความผิดพลาด" ครั้งนั้น
จะส่งผลให้ "ผู้ทำผิด"
ได้รับ
บทลงโทษทางกฎหมาย .. และทางปฏิบัติอย่างไร ??




........


" ผู้สื่อข่าวรายงานการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีร่วมรัฐบาลอีก 7 คน
ขณะนี้ (26 มิ.ย.) เป็นการอภิปรายในส่วนของกระทรวงคมนาคม หลังจากเสร็จสิ้น
การอภิปรายกระทรวงพาณิชย์
โดย พ.อ.วินัย สมพงษ์ ส.ส.ประชาธิปัตย์
เป็นคนแรกที่ลุกขึ้นอภิปรายนายสันติ พร้อมพัฒน์รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
ระบุหลักฐานว่าขณะที่นายสันติ เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง
ถูกทางมหาวิทยาลัยจับได้ว่าให้บุคคลอื่นเข้าสอบแทน
โดยปลอมแปลงใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ ใช้เป็นหลักฐานในการเข้าสอบ
และถูกลบชื่อจากความเป็นนักศึกษา !!!!


อย่าง ไรก็ตาม บรรดา ส.ส.พลังประชาชน ต่างผลัดกันลุกขึ้นประท้วงการอภิปรายของ
พ.อ.วินัย เป็นระยะๆ
ว่านำเรื่องในอดีตที่ไม่เกี่ยวกับการบริหารราชการ
ในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงคมนาคม
มาอภิปราย
แต่ประธานในการประชุมวินิจฉัยว่า มีความเกี่ยวข้องกับญัตติที่ฝ่ายค้านยื่น อภิปรายไม่ไว้วางใจ
จึงอนุญาตให้อภิปรายต่อ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า
เมื่อเวลา 12.30 น. ที่ผ่านมา นายวิวัฒน์ชัย กุลมาตย์
อดีตรองอธิการบดี
มหาวิทยาลัยรามคำแหง ปัจจุบันเป็นอาจารย์ประจำคณะศึกษาศาสตร์
มหาวิทยาลัยรามคำแหง
มอบอำนาจให้นายโลมิรันดร์ บุตรจันทร์ ทนายความ
เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.

เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีกับ นายสันติ พร้อมพัฒน์
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
ข้อหาปลอมแปลงเอกสารทางราชการและใช้เอกสารปลอม
และนายรังสรรค์ แสงสุข สมัยเป็นอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง

ข้อหาละเว้นหรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157
ใน หนังสือร้องทุกข์ ระบุว่า นายวิวัฒน์ชัย
ในฐานะอาจารย์ประจำคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. 2542 ในการสอบไล่ภาคฤดูร้อน ปีการศึกษา 2541 หัวหน้าตึก
PRB ตรวจ

พบว่า นายสันติ รหัสประจำตัวนักศึกษา 4106562624 ได้ให้บุคคลอื่นเข้าสอบแทน

โดยปลอมบัตรประจำตัวนักศึกษาและใบอนุญาตขับรถยนต์ส่วนบุคคลตลอดชีพ
ของกรมการขนส่งทางบก
และนำมาใช้เป็นหลักฐานเข้าห้องสอบ
ที่ประชุมของคณะกรรมการที่ปรึกษาของสภามหาวิทยาลัย (ทปอ.)

ในการประชุมครั้งที่ 23/2542 วันที่ 30 มิ.ย. 2542 ได้พิจารณาแล้วเห็นว่า
การกระทำของนายสันติ
ฝ่าฝืนคำสั่งมหาวิทยาลัยรามคำแหง ที่ 684/2537
เรื่องข้อปฏิบัติในการสอบไล่ ข้อ 1.20
อันเป็นการกระทำผิดวินัยร้ายแรง ตามข้อ 6
แห่งข้อบังคับมหาวิทยาลัยรามคำแหง ว่าด้วยวินัยนักศึกษา พ.ศ.2522

จึงมีมติให้ลบชื่อ นายสันติ ออกจากทะเบียนนักศึกษาตังแต่สอบไล่ภาคฤดูร้อน
ปีการศึกษา 2541
สั่ง ณ วันที่ 4 ส.ค. 2542..
ต่อ มา นายสันติ ซึ่งถูกลบชื่อออกจากทะเบียนนักศึกษาไปแล้ว

ได้บังอาจสมัครเป็นนักศึกษาใหม่มหาวิทยาลัยรามคำแหงอีก
ทั้งที่รู้อยู่ว่าตนถูกลบชื่อไปแล้ว
และไม่มีสิทธิสมัคร

ซึ่งในเวลาดังกล่าว นายรังสรรค์ แสงสุข เป็นอธิการบดี เป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรง
ของพนักงานมหาวิทยาลัย ขณะเดียวกัน ม.รามคำแหง เป็นนิติบุคคลตามกฎหมายมหาชน
มีอธิการบดีปฏิบัติหน้าที่ตาม
พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยรามคำแหง พ.ศ.2541
ได้มีการช่วยเหลือหรือสนับสนุน หรือละเลยการปฏิบัติหน้าที่
ซึ่งกฎหมายให้มีอำนาจปฏิบัติ
โดยได้ให้นายสันติ ได้รับการรับสมัครเป็นนักศึกษาใหม่ ระดับปริญญาตรี
และเรียนต่อระดับปริญญาโทจนจบ
จึงเป็นการกระทำผิดตามระเบียบมหาวิทยาลัย

เพราะเมื่อนายสันติถูกลบชื่อ ก็มีสิทธิสมัครเป็นนักศึกษา
หรือจนกว่าจะขาดอายุความ 15 ปี



นอกจากนั้น จากการที่มหาวิทยาลัย หรืออธิการบดี ไม่ดำเนินการตรวจสอบคุณสมบัติ
ของนายสันติ ขณะเดียวกัน ก็มีหน้าที่ต้องดำเนินคดีกับนายสันติ แต่กลับไม่ดำเนินการใดๆ
อีกทั้งยังสนับสนุนให้สมัครเรียนปริญญาตรีภาคพิเศษ จนจบปริญญาโท

ทั้งที่มีกฎหมายให้ตรวจสอบและปฏิบัติ ถือว่าเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
ตามกฎหมาย
อาญามาตรา 157 ขณะที่นายสันติ ถือว่าขาดจริยธรรม
สำหรับข้าราชการการเมือง!!!!
"



Credit : http://www.thairath.co.th/online.php?section=newsthairathonline&content=94899





????????????????




ในฐานะที่พวกเราเป็น "นักศึกษา" คนหนึ่งในสังคม ..
ทุกคนมีความคิดเห็นอย่างไรกับข่าวนี้ ..

การ "โกง" ในอดีตของรัฐมนตรีคนนี้ จะส่งผลอะไรต่อปัจจุบัน ?
ความผิดในอดีต .. จะเป็นเครื่องชี้วัดหรือตัดสินเรื่องราวในปัจจุบันได้หรือไม่ ?

และ .. เรื่องๆนี้ จะเป็นเรื่องนึงที่ตัดสินอนาคตทางการเมืองของเขา..
และของประเทศไทยได้ยังไงต่อไป ??


ถ้ามองออกไปกว้างๆ .. ประเทศไทย ของ "เรา" จะเป็นยังไงต่อไป ..


ทุกคนคิดว่ายังไงคะ ?


วันเสาร์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2551

พันธมิตรฯใช้ยุทธศาสตร์ชุมนุมยืดเยื้อ



พันธมิตรฯ ยันใช้ยุทธศาสตร์ชุมนุมยืดเยื้อทำเนียบฯ 21 มิ.ย. – “สุริยะใส กตะศิลา” ย้ำจุดยืนการชุมนุมของพันธมิตรฯ ยึดแนวทางสันติ แต่ยังคงใช้ยุทธศาสตร์การชุมนุมแบบยืดเยื้อ เชื่อปักหลักหน้าทำเนียบฯ กดดันรัฐบาลได้ ระบุ การเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ ไม่สามารถสลายการชุมนุมุได้ หนุนตั้งรัฐบาลแห่งชาติ
นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แถลงเย็นวันนี้ (21 มิ.ย.) ว่า แนวทางการเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรฯ ถือเป็นชัยชนะทางการเมืองของภาคประชาชน เป็นการสถาปนาพลังบริสุทธิ์ ที่ใช้ยุทธศาสตร์ต่าง ๆ โดยยึดแนวทางสันติวิธี เบื้องต้นใช้ยุทธศาสตร์การชุมนุมยืดเยื้อ จะไม่บุกเข้าไปในทำเนียบฯ แต่ผู้ชุมนุมจะยึด ถ.พิษณุโลกตลอดเส้นทางด้านหน้าทำเนียบฯ เท่านั้น
"การที่กลุ่มพันธมิตรฯ มาปักหลักที่หน้าทำเนียบฯ เป็นการกดดันรัฐบาล ได้มากกว่าอยู่ที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ และยังไม่มีแนวทางในการยกระดับการเคลื่อนไหว โดยเฉพาะการปิดประตูทำเนียบฯ ทุกประตู" นายสุริยะใส กล่าว
นายสุริยะใส กล่าวถึง กรณีที่รัฐบาลเปิดให้มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจในวันที่ 23 -24 มิถุนายนนี้ ว่า การที่รัฐบาลยินยอมให้เปิดอภิปรายฯ ในตอนนี้ ถือว่าสายเกินไป ที่จะดำเนินการตามกระบวนการรัฐสภา หากรัฐบาลเชื่อในกระบวนการของรัฐสภาจริง ทำไมไม่มีการหารือในกรณีการลงนามแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชา กรณีปราสาทเขาพระวิหาร ดังนั้น การอภิปรายฯ จึงไม่ใช่ทางออกที่จะยุติการชุมนุม
ส่วนจะเป็นไปได้หรือไม่ ที่รัฐบาลจะเปิดให้อภิปรายไม่ไว้วางใจ เพื่อจะใช้ช่วงนี้ยุบสภาฯ นายสุริยะใส กล่าวว่า แม้จะมีการยุบสภาฯ หรือการเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี ไม่สามารถแก้ปัญหา หรือทำให้กลุ่มพันธมิตรฯ สลายการชุมนุม หากตราบใดที่พรรคพลังประชาชน ยังเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ทั้งนี้ ได้เรียกร้องให้พรรคร่วมถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล ยอมเสียสละเพื่อบ้านเมือง เพื่อจัดตั้งรัฐบาลใหม่ แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้น ก็จะทำให้สถานการณ์คลี่คลายได้ในระยะสั้น ๆ เท่านั้น เพราะมีเสียงไม่มากพอ
"แนวทางรัฐบาลแห่งชาติ ถือเป็นแนวทางหนึ่งที่ดี แต่ยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องกฎหมายว่าจะสามารถดำเนินการได้หรือไม่ ดังนั้น จึงต้องการขอให้นักวิชาการ และผู้เสนอความคิดหาทางออกในเรื่องของข้อกฎหมายด้วย" นายสุริยะใส กล่าว – สำนักข่าวไทยอัพเดตเมื่อ 2008-06-21 19:15:01

วันจันทร์ที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2551

Profile of members








" BRAIN PLAZA "


































ชื่ : นางสาวกรองกาญน์ เต็มใจ
ชื่อเล่น : แจง

วันเกิด : 14 มกราคม 2531
ประวัติการศึกษา : อนุบาล โรงเรียนท่าปลาอนุสรณ์1 จังหวัดอุตรดิตถ์

ประถม โรงเรียนวัดเมธังกราวาส จังหวัดแพร่

มัธยม โรงเรียนนารีรัตน์ จังหวัดแพร่
ปัจจุบันศึกษาอยู่มหาวิทยาลั
ยแม่ฟ้าหลวงสำนักวิชา

การจัดการ สาขาบริหารธุรกิจ ชั้นปีที่ 3 ค่ะ

รหัส : 4931203004

ภูมิลำเนา : จังหวัดแพร่
เกรดเฉลี่ย : 3.00
E-mail : slotmachine_xskate@hotmail.com
สีที่ชอบ : สีรุ้ง

หนังที่ชอบ : รักนี้ชั่วนิรันดร์,เขียนถึงคนบนฟ้า
กีฬาที่ชอบ : วิ่งค่ะ อย่างเดียว ^^"
ชอบ :
หมูสีชมพู, Powerpuff girls

ไม่ชอบ : กบ , เขียด , อึ่งอ่าง ,คางคก !!!
งานอดิเรก : ฟังเพลงเศร้าๆ, คุยโทรศัพท์ (อันนี้ชอบมากที่สุด )

ความสนใจ : วาดรูป, แต่งรูป ค่ะ

ของสะสม : ตุ๊กตาหมูค่ะ

เวลาว่าง : หลับ
นิสัย : ปัญญาอ่อนเล็กน้อย..เป็นคนรักษาน้ำใจคนอื่นค่ะ ชอบให้กำลังใจคนอื่น ไม่ชอบพูดให้คนอื่นเสียใจถ้าไม่จำเป็นจริงๆ?
ตลก ชอบหัวเราะ จริงจัง ที่สำคัญคือรักพ่อกับแม่มากที่สุดค่ะ
นิสัยไม่ดีก็มีเยอะมากอยู่ ชอบพูดไม่ค่อยเข้าใจ ชอบพูดเสียงดังมากกกกก ชอ
บโวยวาย อารมณ์แปรปรวน บางทีซึมเศร้า ชอบเอาแต่ใจตัวเอง ขี้งอน ขี้โมโห ขี้โวยวาย ขี้น้อยใจ ขี้กลัว ขี้หงุดหงิด
อนาคต : อยากเรียนต่อปริญญาโท ยังไม่อยากทำงาน
กลัว



































ชื่อ- ฉัตรมณี แก้วปลั่ง
ชื่อเล่น- เม

ID
-4931203022

ประวัติการศึกษา

ระดับอนุบาล โรงเรียนไพฑูรย์วิทบา สระบุรี
ระดับประถมศึกษา1-5 โรงเรียนไพฑูรย์วิทยา
สระบุรี
ระดับประถมศึกษา 6 โรงเรียนวัดท่ามะปรางสระบุรี โรงเรียนรางวัลพระราชทาน
ระดับมัธยมต้น โรงเรียนแก่งคอย สระบุรี

ระดับมัธยมปลาย โรงเรียนจอมสุรางค์อุปถัมป์ พระนครศรีอยุธยา

ปัจจุปัน กำลังศึกษาอยู่มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ชั้นปีที่
3 สาขาบริหารธุรกิจ

เกิด-
10 เมษายน 2531

E-mail:ka_ka_may@hotmail.com

ภูมิลำเนา- สระบุรี

สีที่ชอบ -แดง,ชมพู

หนังที่ชอบ- แนวตลก หรือไม่ก็สยองขวัญ
ฆาตกรรม 55+ สะใจดี
ชอบ-คนใจดี

ไม่ชอบ-คนใจไม่ดี เห้ยยย ผลไม้แทบทุกชนิด

งานอดิเรก-พูดดดดดดดดดดดด กินเป็นงานอดิเรก

สนใจ-ตอนนี้สนใจเรื่องเรียนก่อน แม่บอกมา

สะสม-
รองเท้า ไม่อยากใส่คู่เดิม เดี๋ยวมันเก่า

เวลาว่าง-กิน นอน เล่นเนท เล่นเกม ยุ่งมากๆ

นิสัย-ขี้เล่น ปากหมา ด่าผู้ชาย หน้าไม่อาย เป็นควายมาแต่กำเนิด
555+

อนาคต-ไม่มี

คติ-
พยายาม พยายาม พยายาม
คนที่เป็นที่รัก-พ่อแม่
ตัวเอง เพื่อนแสนแปดคน

คาดหวังในคอสนี้-เรียนไม่เก่ง แต่ก็จะพยายาม พยายาม พยายาม จดทุกคำพูดของอาจารย์ แล้วก็ไม่คุยในเวลาเรียนค่ะ จะจดแล้วก็ตั้งใจอย่างเดียว หวังว่าอาจารย์คงเมตตาหนูด้วยนะคะ
^/\^









ชื่อ : นายปวรา รัตนเรืองเดช

ชื่อเล่น : ปอนด์

ประวัติการศึกษา : ระดับประถมศึกษา โรงเรียนดอนบอสโกวิทยา อุดรธานี

ระดับมัธยมศึกษา โรงเรียนอุดรพิยานุกูล อุดรธานี

ปัจจุบันกำลังศึกษาระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง เชียงราย

รหัสนักศึกษา : 4931203050

ภูมิลำเนา : 65 ถ.ราชพัสดุ ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี 41000

เกรดเฉลี่ย : 2.20

e-mail : rafaeil_x@hotmail.com

สีที่ชอบ : ดำ, เทา

กีฬาที่ชอบ : บาสเกตบอล, แบดมินตัน, ขี่ม้า, ยิงปืน

สิ่งที่ชอบ : ผู้หญิง

สิ่งที่ไม่ชอบ : (ไม่ปรากฏแน่ชัด)

งานอดิเรก : วาดรูป

ความสนใจ : ผู้หญิง(ก็เหมือนกับสิ่งที่ชอบนั่นแหละ)

ของสะสม : ฟิกเกอร์ตัวการ์ตูน, สร้อยคอ

เวลาว่าง : เที่ยว, นอน

นิสัยส่วนตัว : รักอิสระ, สนุกสนานเฮฮา, เรื่อยๆ

คติประจำใจ : อดีตเป็นแค่สิ่งที่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป จงอย่าไปยึดติดกับอดีต























ชื่อ ศรัูญยู
เอี่ยมชื่น
ชื่อเล่น
แจ็ค
ประวัติการศึกษา

โรงเรียนสาธิตอนุบาลทานตะวัน บริบาลศึกษา

โรงเรียนอนุบาลจอมบึง อนุบาลศึกษา

โรงเรียนวัดเขาวัง(แสง ช่วงสุวนิช) ประถมศึกษา

โรงเรียนคุรุราษฎร์รังสฤษฏ์ มัธยมศึกษาตอนต้น

โรงเรียนราชโบริกานุเคราะห์ มัธยมศึกษาตอนปลาย

มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง อุดมศึกษา

วันเกิด
16 กรกฏาคม 1987

ID 4931203103

ภูมิลำเนา ราชบุรี

เกรดเฉลี่ย
2.75

E-mail
oho_jingjack@hotmail.com

Hi5
http://Jingjack.hi5.com

สีที่ชอบ เขียวอมเหลือง

กีฬาที่ชอบ ว่ายน้ำ
(เพราะเล่นเป็นอย่างเดียว)
ชอบ หนังการ์ตูน
animation

ไม่ชอบ มะละกอสุก(แต่ชอบกินส้มตำเพราะมันใช้มะละกอดิบ)

งานอดิเรก ดูหนัง ฟังเพลง เล่นอินเตอร์เนท พักผ่อน หลับ

ความสนใจ ภาษาต่างประเทศทุกภาษา การเงินการธนาคาร การตลาด

ของสะสม เงิน
อิอิ
เวลาว่าง ก็เหมือนงานอดิเรกนั่นแหละ

นิสัยส่วนตัว ความจริงแล้วเป็นคนเอาแต่ใจตัวเองมาก แต่ถ้าอยู่กับคนอื่นก็ต้องควบคุมอารมณ์ตัวเองให้ได้
เพราะมนุษย์เป็นสัตว์สังคม ขี้เล่น ตลก

โทร
089-1410511










ชื่อ สุกัญญา น่วมทอง
ชื่อเล่น
ดริ้ง
ประวัติการศึกษา

ระดับอนุบาล-ประถมศึกษา โรงเรียนโรจนวิทย์มาลาเบียง
ระดับมัธยมศึกษา โรงเรียนเฉลิมขวัญสตรี
ระดับอุดมศึกษา มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
เกิด
20 ตุลาคม 1987

ID
4931203115
ภูมิลำเนา จังหวัด พิษณุโลก

เกรดเฉลี่ย
3.10
E-mail
sukanya_drink0102@hotmail.com
Hi 5
http://drinkza.hi5.com/
งานอดิเรก ดูหนัง เล่น
internet และทำอาหาร
ความสนใจ การเต้น
ของสะสม เครื่องประดับ หนังสือ
เวลาว่าง
shopping
สีที่ชอบ ขาว ดำ
กีฬาที่ชอบ ว่ายน้ำ

ชอบ กุหลาบขาว
ช็อคโกแลต
ไม่ชอบ ทุเรียน
นิสัยส่วนตัว สดใส ร่างเริง อ่อนไหว ไม่มีหัวใจ
อนาคต เที่ยวรอบโลก
คนรัก
my family and my all friends.
โทร
086-7347910

คติประจำใจ ใครดีมาก็ดีตอบ ใครร้ายมาก็ร้ายตอบ







ชื่อ อำพล เมืองมูล
ชื่อเล่น ตั้ม

ประวัติการศึกษา

โรงเรียนเมฆขาว บริบาลศึกษา

โรงเรียนอนุบาลแม่ฮ่องสอน
อนุบาล-ประถมศึกษาปีที่
4

โรงเรียนอนุบาลแพร่ ระดับประถมศึกษาปีที่
5-6
โรงเรียนพิริยาลัยจังหวัดแพร่ ระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1

โรงเรียนอุตรดิตถ์ ระดับมัธยมศึกษาปีที่
2-3

โรงเรียนสามัคคีวิทยาคม ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย

มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
ระดับอุมดมศึกษา

วันเกิด
31 พฤษภาคม 1988
ภูมิลำเนา เชียงราย

เกรดเฉลี่ย
2.37
E-mail
ps_totum@hotmail.com
ID 4931203133

สีที่ชอบ ขาว เขียว ดำ

กีฬาที่ชอบ ว่ายน้ำ
วอลเล่ย์บอล
ชอบ นอน

ไม่ชอบ ต้นหอม ผักชี

ความสนใจ เงิน

งานอดิเรก เล่นเกม
เที่ยวเล่น

ของสะสม ทุกอย่างที่มีคนให้

เวลาว่าง นอน ZzzZz

นิสัยส่วนตัว เงียบ เรียบร้อย เล่นไปวันๆ

อนาคต
ชีวิตมีความสุข
คติ ไม่จำเป็นต้องมี มันอยู่ที่ใจ

โทร
086-1956155































ชื่ : น.ส. นัทชา อัจฉริยบรรจง
ชื่อเล่น : บีบี
ประวัติการศึกษา : โรงเรียนอนุบาลบริบูรณ์ศึกษา(กรุงเทพฯ)
โรงเรียนเผดิมศึกษา (กรุงเทพฯ)
โรงเรียนศึกษานารี (กรุงเทพฯ)
มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง สาขาบริหารธุรกิจ ชั้นปีที่ 3
รหัส : 4931203182
ภูมิลำเนา : กรุงเทพมหานคร
เกรดเฉลี่ย : 2.66
สีที่ชอบ : ชมพู, ฟ้า, เขียว
หนังที่ชอบ : หนังแอคชั่น, หนังผี
กีฬาที่ชอบ : แบดมินตัน
ชอบ : ตัวเอง
ไม่ชอบ : ไม่มี
งานอดิเรก : แชทเอ็มเอสเอ็น, ดูหนัง
ความสนใจ : เรื่องที่ชอบไง
ของสะสม : รูปถ่าย
นิสัยส่วนตัว : ใจร้อน , โกรธง่ายหายเร็ว
อนาคต : เป็นเรื่องของอนาคต
คติประจำใจ : ทำให้ทุกวันมีความสุข










ชื่อ ปิยมาศ วิภูสัตยา
ชื่อเล่น
กุ๊กกิ๊ก

ประวัติการศึกษา
โรงเรียนอนุบาลลำปาง(เขลางค์รัตนอนุสรณ์)
อนุบาล-ประถม
โรงเรียนลำปางกัลยาณี มัธยม
1-6
มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง อุดมศึกษา
รหัสนักศึกษา
4931203188

ภูมิลำเนา ลำปาง
เกรดเฉลี่ย
2.46
E-mail
kk_trombone@hotmail.com
สีที่ชอบ เขียว
กีฬาที่ชอบ
วิ่ง
ชอบ
รายการอาหาร
เกมส์ต่างๆ
ไม่ชอบ
แมลงสาบ ตุ๊กแก
งานอดิเรก
นอนกิน ดูหนัง
เล่นเกมส์
ความสนใจ
มือถือ
รถยนต์
ของสะสม ทุกอย่าง
เวลาว่าง นอน เล่นเกมส์ ดูทีวี

นิสัยส่วนตัว
ขี้เกียจ
ขี้เล่น(กับคนที่สนิท)
อนาคต
ร่ำรวย ไม่ต้องทำงาน สุขสบาย
และท่องเทียวไปทั่วโลก
คติ ทำวันนี้ให้ดีที่สุด





ชื่อ วรรณพร แซ่ตั้ง
ชื่อเล่น
เกด
ประวัติการศึกษา ปริญญาตรี สาขาบริหารธุรกิจ
รหัสนักศึกษา
4931203198
ภูมิลำเนา กรุงเทพมหานคร
เกรดเฉลี่ย 2.08
e-mail gate.a@hotmail.com
สีที่ชอบ ชมพู
กีฬาที่ชอบ เปตอง แบตมินตัน
ชอบ หมา
แมว

ไม่ชอบ แมลงสาบ
งานอดิเรก ร้องเพลง
อ่านการ์ตูน
ความสนใจ เล่นดนตรีไทย
ของสะสม หนังสือการ์ตูน
เวลาว่าง เล่นเน็ต
นิสัยส่วนตัว คุยเก่ง ชอบช่วยเหลือคนอื่น

คติประจำใจ วันนั้นหรือวันไหนๆไม่สำคัญเท่ากับทำปัจุจุบันและอนาคตให้ดีพอ

ชื่อ-ภุชงค์ สิทธิมล

ชื่อเล่น-ภุ

อายุ-20 ปี

ที่อยู่-480 หมู่ 1 ตำบลแม่สาย อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย57130

โทร-086-9127470

E-mail-puchong_sittimon@msn.com

เกิด- 20 กันยายน 2530

ชอบ- สีฟ้า ขาว ดำ เขียว ส้ม อาหารทุกอย่าง ความจริงใจ

ไม่ชอบ-แมลงสาบ การเสแสร้ง

คติพจน์- ด้สนได้ อายอด

ความหวังในอนาคต-1.อยากเรียนต่อ ป.โท(แต่มไมตังค์ง่ะ T_T)

2.อยากให้การเมืองไทยไม่มีคอรัปชั่น บ้านเมืองจะได้เจิรญสักที(จะเป็นไปได้เหรอ!!)

อยากบอกกับคนอ่านว่า-เป็นสันทนาการมา 2 ปีแล้วค้าบ!!